เหงือกบวม

เหงือกเป็นอวัยวะที่สำคัญไม่แพ้อวัยวะส่วนอื่น ๆ ในร่างกาย หากไม่มีเหงือกรองฟัน เราก็จะเคี้ยวอะไรไม่ได้เลย วิธีสังเกตสุขภาพเหงือกที่ดีคือ เหงือกจะมีสีชมพูอ่อน ๆ ฟันเรียงชิดกันแน่น แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่แปรงฟันแล้วมีเลือดออก เหงือกเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มกว่าปกติ เหงือกร่น เหงือกบวมโต รู้สึกปวด หรือมีกลิ่นปาก แสดงว่าเหงือกของเรากำลังส่งสัญญานของอาการที่เรียกว่า “เหงือกบวม” แล้วนั่นเอง 

 

สาเหตุและอาการ

อาการเหงือกบวมเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ทำความสะอาดช่องปากไม่ทั่วถึง หรือมีเศษอาหารตกค้าง ทำให้เชื้อแบคทีเรียสะสม จนทำให้เหงือกระคายเคือง อักเสบ จนมีอาการเหงือกบวมได้ หรือเกิดจากการมีฟันผุ ฟันคุด หรือมีสาเหตุมาจากภาวะขาดสารอาหารอย่างวิตามินซีและวิตามินบี เป็นต้น

 

วิธีป้องกัน

แต่จะดีกว่ามั้ย ถ้าเราป้องกันไม่ให้เกิดเหงือกอักเสบ จะได้ไม่ต้องเสียสุขภาพ เสียเวลาและเสียเงินไปกับการรักษา ด้วยการดูแลสุขอนามัยในช่องปาก ตามคำแนะนำต่อไปนี้

  1. แปรงฟันให้สะอาดวันละ 2 ครั้ง ใช้ไหมขัดฟันช่วยทำความสะอาดบริเวณซอกฟันทุกวัน เพื่อกำจัดคราบจุลินทรีย์สะสมที่เป็นสาเหตุของโรค
  2. ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
  3. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเลิกสูบบุหรี่ เพราะอาจทำให้เหงือกระคายเคืองได้
  4. หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีรสหวาน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้ฟันผุ และเหงือกอักเสบ
  5. หมั่นตรวจสุขภาพช่องปากทุก ๆ 6 เดือน

 

จากข้อมูลในบทความนี้จะเห็นได้ว่า โรคเหงือกอักเสบไม่ใช่โรคไกลตัวเลย เพราะเราทุกคนก็มีโอกาสเป็นกันได้ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่อยากสูญเสียฟันของเราไป ก็ไม่ควรที่จะละเลยการดูแลสุขภาพช่องปากรวมถึงเหงือกด้วย เพื่อฟันจะได้อยู่กับเราได้นาน ๆ นะคะ

 

 

ผู้เขียน

ธมนวรรณ พรพาณิชเจริญ 

เภสัชกร 

 

อ่านอะไรต่อดี ? 

ปวดฟันไม่หนัก เภสัชกรจ่ายยาอะไรได้บ้าง

อร่อยปาก ลำบากกาย อันตรายอาหารรสจัด

7 เรื่องควรทราบเกี่ยวกับน้ำยาบ้วนปาก

 

หากใครมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่อง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยา และปัญหาเรื่องสุขภาพ สามารถปรึกษาเภสัชกรออนไลน์ได้ที่ ปวด ป่วย อาย จาม "ถามMacy" เรายินดีให้คําปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพ